หน้าแรก > ประกาศสถานกงสุลใหญ่ฯ
ประกาศปรับเปลี่ยนข้อกำหนดและเงื่อนไขในการยื่นขอรหัสสุขภาพ สำหรับผู้ที่จะเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน
2022-04-06 17:00

ตามระเบียบการป้องกันและควบคุมภายในประเทศฉบับล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน พ.. 2565 (รวมเที่ยวบินที่ออกเดินทางในวันที่ 7)  ทางสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนในประเทศไทยได้ปรับเวลาการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง สำหรับผู้เดินทางที่จะออกเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน และได้เพิ่มการตรวจ ATK ก่อนเดินทาง 12 ชั่วโมง อีก 1 ครั้ง ข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการตรวจก่อนเดินทางได้ถูกปรัปรุงและแยกประเภทอย่างชัดเจนแล้ว ผู้ที่จะเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนควรอ่านและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

1. ขอบเขตการยื่นขอรหัสสุขภาพ

สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจะพิจารณาการยื่นคำขอรหัสสุขภาพสำหรับผู้เดินทางสัญชาติจีนและชาวต่างชาติที่เดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนเท่านั้น สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจะไม่รับคำขอรหัสสุขภาพจากผู้โดยสารที่เดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนโดยเปลี่ยนเครื่องในประเทศที่สาม

เนื่องจากพื้นที่เปลี่ยนเครื่องระหว่างประเทศที่สนามบินในประเทศไทยไม่มีบริการการตรวจRT-PCRและการตรวจหาแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม ดังนั้นสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจึงไม่รับคำขอรหัสสุขภาพจากผู้โดยสารที่จากประเทศที่สามมาประเทศไทยเพื่อเปลี่ยนเครื่องไปยังประเทศจีน

สำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศที่สามมายังประเทศไทยด้วยวีซ่าระยะสั้น เช่น วีซ่าท่องเที่ยว หากไม่มีเที่ยวบินตรงจากประเทศดังกล่าวไปยังประเทศจีน ทางสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจะตรวจสอบและออกรหัสสุขภาพตามกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้เดินทางจากประเทศที่สาม หากประเทศดังกล่าวมีเที่ยวบินตรงไปยังประเทศจีน สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจะไม่รับพิจารณาการยื่นคำขอรหัสสุขภาพเหล่านั้น  ผู้ที่เดินทางจากประเทศจีน (รวมถึง ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) มายังประเทศไทยเป็นการชั่วคราว จะต้องยื่นขอรหัสสุขภาพตามข้อกำหนดของผู้เดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน

อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ ในระยะนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยมีการปรับนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง การขอการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA ON ARRIVAL) อาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศหรืออาจนำไปสู่การอยู่เกินอยู่เกินระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตและอาจถูกส่งกลับหรือถูกลงโทษ อื่นๆ ได้ บุคคลสัญชาติจีนที่จะเดินทางมาประเทศไทยต้องทำความเข้าใจนโยบายการตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทย และการขอวีซ่าเข้าประเทศไทยจะต้องได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย 28 วัน

   

2. ข้อกำหนดการตรวจก่อนเดินทาง สำหรับบุคคลประเภทต่างๆ

 1) ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว (เช่น ซิโนแวค, ซิโนฟาร์ม เป็นต้น)

ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบถ้วนแล้ว หมายถึง ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม และฉีดครบ 2 เข็มเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ในกรณีที่ได้รับครบแล้วจะต้องสามารถแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนได้

ผู้ที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะได้รับวัคซีนที่ไม่ใช่ชนิดเชื้อตายก่อนหรือหลัง จะถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว

1. ตรวจ RT-PCR ครั้งแรก 7 วันก่อนเดินทาง (เช่น เที่ยวบินวันที่ 8 เมษายน สามารถเก็บตัวอย่างตรวจในวันที่ 1 เมษายน เวลาใดก็ได้

หากผลตรวจเป็นลบ ให้เริ่มทำการสำรวจสุขภาพตนเอง และกรอกตารางสำรวจสุขภาพตนเอง (ดู เอกสารแนบ 1) และอัพโหลดเมื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ

2. ตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจำนวน 2 แห่ง (ดูเอกสารแนบ2) โดยหนึ่งในนั้นจะต้องเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน การเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 48 ชั่วโมงจะเป็นเวลาใดก็ได้ระหว่างวันที่ 6 ถึงวันที่ 8 เมษายน และการเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 24 ชั่วโมง จะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน

3. หลังจากได้รับผลตรวจ RT-PCR จำนวน 3 ครั้งแล้ว กรุณาอัพโหลดเพื่อยื่นขอรหัสสุขภาพโดยเร็วที่สุด

4. ตรวจATK ภายใน 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง โดยจะต้องตรวจที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย (ดูเอกสารแนบ2) และไม่ต้องอัพโหลดผลตรวจ ATK นี้เข้าระบบ แต่ต้องนำผลตรวจฉบับจริงไปที่สนามบิน ซึ่งทางสายการบินจะตรวจสอบที่จุดเช็คอิน หากเครื่องบินออกตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK ควรทำภายใน 12 ชั่วโมงวันเดียวกัน หากเครื่องบินออกก่อนเวลา 12.00 น. การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK สามารถทำได้หลังเวลา 12.00 น. ของวันก่อนหน้า

หากผลตรวจ ATK เป็นบวก จะไม่สามารถเดินทางได้ และจะต้องยื่นขอรหัสสุขภาพตามขั้นตอนของผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ หากผลตรวจ ATK เป็นบวก แต่สามารถยืนยันผลตรวจ RT-PCR ที่มีเวลาการตรวจหลังจากเวลาในผลตรวจ ATK ได้ สามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ตามขั้นตอนของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ

1. หน้าแรกของหนังสือเดินทาง

2. ภาพถ่ายหน้าวีซ่าประเทศไทย หรือ หลักฐานการอนุญาตให้พำนักในประเทศไทย และ ตราประทับเข้าประเทศไทย โดยต้องเป็นภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางแบบเต็มหน้า

3. ตั๋วเครื่องบินหรือกำหนดการเดินทางไปยังประเทศจีน

4. ใบรับรองการฉีดวัคซีน

5. ตารางสำรวจสุขภาพตนเอง

6. ผลตรวจ RT-PCR จำนวน 3 ครั้ง

นำผลตรวจ ATK ฉบับจริงติดตัวไปที่สนามบินด้วย โดยจะมีการตรวจสอบจากสายการบินที่จุดเช็คอิน

2) ผู้ที่ได้รับวัคซีนที่ไม่ใช่ชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

ผู้ที่ได้รับวัคซีนที่ไม่ใช่ชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว เช่น Pfizer, Biontech, Moderna, CanSino, AstraZeneca, Zhifei Longcom

1. ตรวจ RT-PCR ครั้งแรก 7 วันก่อนเดินทาง (เช่น เที่ยวบินวันที่ 8 เมษายน สามารถเก็บตัวอย่างตรวจในวันที่ 1 เมษายน เวลาใดก็ได้

หากผลตรวจเป็นลบ ให้เริ่มทำการสำรวจสุขภาพตนเอง และกรอกตารางสำรวจสุขภาพตนเอง (ดู เอกสารแนบ 1) และอัพโหลดเมื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ

2. ตรวจ RT-PCR อีกครั้ง พร้อมตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ต่อ N โปรตีนในซีรัม ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทางจะต้องไม่ซ้ำกับสถานพยาบาลเดิมที่ไปตรวจก่อนหน้านี้ 7 วันเช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน และการเก็บตัวอย่างตรวจจะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน(ปัจจุบันในเขต 12 จังหวัดภาคเหนือ มีเพียงโรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ เท่านั้นที่สามารถทำการตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ต่อ N โปรตีนในซีรัมได้) หาก IgM มีผลเป็นบวก ให้ยื่นขอรหัสสุขภาพตามขั้นตอนของผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ หาก IgG มีผลเป็นบวก จะต้องตรวจ RT-PCR เพิ่มอีก 1 ครั้งโดยสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย

3. หลังจากได้รับผลตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งและผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ต่อ N โปรตีนในซีรัม จำนวน 1 ครั้งแล้ว กรุณาอัพโหลดเพื่อยื่นขอรหัสสุขภาพโดยเร็วที่สุด

4. ตรวจ ATK ภายใน 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง โดยจะต้องตรวจที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย (ดูเอกสารแนบ2) และไม่ต้องอัพโหลดผลตรวจ ATK นี้เข้าระบบ แต่ต้องนำผลตรวจฉบับจริงไปที่สนามบิน ซึ่งทางสายการบินจะตรวจสอบที่จุดเช็คอิน หากเครื่องบินออกตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK ควรทำภายใน 12 ชั่วโมงของวันเดียวกัน หากเครื่องบินออกก่อนเวลา 12.00 น. การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK สามารถทำได้หลังเวลา 12.00 น. ของวันก่อนหน้า

หากผลตรวจ ATK เป็นบวก จะไม่สามารถเดินทางได้ และจะต้องยื่นขอรหัสสุขภาพตามขั้นตอนของผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ หากผลตรวจ ATK เป็นบวก แต่สามารถยืนยันผลตรวจ RT-PCR ที่มีเวลาการตรวจหลังจากเวลาในผลตรวจ ATK ได้ สามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ตามขั้นตอนของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ

1. หน้าแรกของหนังสือเดินทาง

2. ภาพถ่ายหน้าวีซ่าประเทศไทย หรือ หลักฐานการอนุญาตให้พำนักในประเทศไทย และ ตราประทับเข้าประเทศไทย โดยต้องเป็นภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางแบบเต็มหน้า

3. ตั๋วเครื่องบินหรือกำหนดการเดินทางไปยังประเทศจีน

4. ใบรับรองการฉีดวัคซีน

5. ตารางสำรวจสุขภาพตนเอง

6. ผลตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และ ผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ต่อ N โปรตีนในซีรัม จำนวน 1 ครั้ง

นำผลตรวจ ATK ฉบับจริงติดตัวไปที่สนามบินด้วย โดยจะมีการตรวจสอบจากสายการบินที่จุดเช็คอิน

3) ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเดียวกันไม่ครบถ้วน

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเดียวกันไม่ครบถ้วน

1. ตรวจ RT-PCR ครั้งแรก 7 วันก่อนเดินทาง (เช่น เที่ยวบินวันที่ 8 เมษายน สามารถเก็บตัวอย่างตรวจในวันที่ 1 เมษายน เวลาใดก็ได้

หากผลตรวจเป็นลบ ให้เริ่มทำการสำรวจสุขภาพตนเอง และกรอกตารางสำรวจสุขภาพตนเอง (ดู เอกสารแนบ 1) และอัพโหลดเมื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ

2.  ตรวจ RT-PCR อีกครั้ง พร้อมตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง จะต้องไม่ซ้ำกับสถานพยาบาลเดิมที่ไปตรวจก่อนหน้านี้ 7 วัน  เช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน และการเก็บตัวอย่างตรวจจะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน หาก IgM หรือ IgG มีผลเป็นบวก ให้ยื่นขอรหัสสุขภาพตามขั้นตอนของผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ

3. หลังจากได้รับผลตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งและผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม จำนวน 1 ครั้งแล้ว กรุณาอัพโหลดเพื่อยื่นขอรหัสสุขภาพโดยเร็วที่สุด

4. ตรวจ ATK ภายใน 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง โดยจะต้องตรวจที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย (ดูเอกสารแนบ2) และไม่ต้องอัพโหลดผลตรวจ ATK นี้เข้าระบบ แต่ต้องนำผลตรวจฉบับจริงไปที่สนามบิน ซึ่งทางสายการบินจะตรวจสอบที่จุดเช็คอิน หากเครื่องบินออกตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK ควรทำภายใน 12 ชั่วโมงวันเดียวกัน หากเครื่องบินออกก่อนเวลา 12.00 น. การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK สามารถทำได้หลังเวลา 12.00 น. ของวันก่อนหน้า

หากผลตรวจ ATK เป็นบวก จะไม่สามารถเดินทางได้ และจะต้องยื่นขอรหัสสุขภาพตามขั้นตอนของผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ หากผลตรวจ ATK เป็นบวก แต่สามารถยืนยันผลตรวจ RT-PCR ที่มีเวลาการตรวจหลังจากเวลาในผลตรวจ ATK ได้ สามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ตามขั้นตอนของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ

1. หน้าแรกของหนังสือเดินทาง

2. ภาพถ่ายหน้าวีซ่าประเทศไทย หรือ หลักฐานการอนุญาตให้พำนักในประเทศไทย และ ตราประทับเข้าประเทศไทย โดยต้องเป็นภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางแบบเต็มหน้า

3. ตั๋วเครื่องบินหรือกำหนดการเดินทางไปยังประเทศจีน

4. ใบรับรองการฉีดวัคซีน

5. ตารางสำรวจสุขภาพตนเอง

6. ผลตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และ ผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม จำนวน 1 ครั้ง

นำผลตรวจ ATK ฉบับจริงติดตัวไปที่สนามบินด้วย โดยจะมีการตรวจสอบจากสายการบินที่จุดเช็คอิน

4) ผู้ที่เดินทางจากประเทศที่สามมายังประเทศไทยด้วยวีซ่าระยะสั้น เช่น วีซ่าท่องเที่ยว

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

ผู้ที่เดินทางจากประเทศที่สามมายังประเทศไทยด้วยวีซ่าระยะสั้น เช่น วีซ่าท่องเที่ยว

ตามนโยบายป้องกันและควบคุมโรคระบาดภายในประเทศจีน หากประเทศดังกล่าวไม่มีเที่ยวบินตรงไปยังประเทศจีน จะต้องโดยสารเที่ยวบินที่บินตรงมายังประเทศไทยและได้รับรหัสสุขภาพจากสถานทูตหรือสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศต้นทาง และจะต้องได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาอย่างน้อย 28 วัน สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจึงจะสามารถออกรหัสสุขภาพให้ได้ตามเงื่อนไขและขั้นตอนของผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว, ผู้ที่ได้รับวัคซีนที่ไม่ใช่ชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว, ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเดียวกันไม่ครบถ้วน 7 วันก่อนเดินทางแล้ว นอกจากนี้ ยังต้องตรวจ RT-PCR ในวันที่ 14 ก่อนเดินทางอีกด้วย

*สำคัญมาก*ในกรณีที่เดินทางมาจากประเทศที่ 3 การยื่นขอรหัสสุขภาพจะต้องแจ้งประวัติการเดินทางตามความเป็นจริง และอัพโหลดภาพถ่ายตราประทับออกจากประเทศต้นทาง และภาพถ่ายตราประทับเข้าประเทศไทย โดยต้องเป็นภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางแบบเต็มหน้า การปลอมแปลงเอกสารหรือการนำภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางของผู้อื่นมาอัพโหลดจะทำให้ถูกตัดสิทธิ์ในการยื่นขอรหัสสุขภาพ

1. หน้าแรกของหนังสือเดินทาง

2. รหัสสุขภาพที่ออกให้โดยสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศต้นทาง

3. ภาพถ่ายตราประทับออกจากประเทศต้นทาง โดยต้องเป็นภาพถ่ายหน้าหนังสือเดินทางแบบเต็มหน้า

4. ตั๋วเครื่องบินหรือกำหนดการเดินทางไปยังประเทศจีน

5. ใบรับรองการฉีดวัคซีน

6. ตารางสำรวจสุขภาพตนเอง

7. ผลตรวจ RT-PCR และผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัมที่สอดคล้องกับสถานะการได้รับวัคซีนของแต่ละบุคคล

นำผลตรวจ ATK ฉบับจริงติดตัวไปที่สนามบินด้วย โดยจะมีการตรวจสอบจากสายการบินที่จุดเช็คอิน

5) ผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

ผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ

ผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อโควิด รวมถึงผู้ที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอักเสบจากโควิด  หรือมีผลตรวจ RT-PCR และผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม ที่เป็นบวก (ยกเว้นผลบวกของแอนติบอดีที่เกิดจากการฉีดวัคซีน) ควรแจ้งประวัติการรักษาและสถานะการตรวจต่อสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ตามความเป็นจริง และขอรหัสสุขภาพตามเงื่อนไขต่อไปนี้ :

 1. มีใบรับรองแพทย์หรือผลการวินิจฉัยด้วยภาพ ( CT สแกนหรือภาพถ่ายเอ็กซเรย์ของปอด) ที่ออกให้โดยโรงพยาบาลในประเทศไทยที่ระบุว่าไม่พบความผิดปกติของปอดหรือได้รับการรักษาโรคโควิดจนหายดีแล้วรวมถึงการตรวจ RT-PCR ที่ผลตรวจเป็นลบโดยทั้งสองรายการนั้นต้องดำเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองโดยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย (การเก็บตัวอย่างทั้งสองครั้งต้องมีระยะห่างกันอย่างน้อย 24 ชั่วโมง)

หลังจากครบ 6 สัปดาห์ (42 วันนับจากผลรายงานทั้งหมด 3 ฉบับโดยเลือกผลตรวจฉบับล่าสุดของการตรวจข้างต้น) หลังจากได้รับผลรายงานทั้งสามข้างต้นแล้วสามารถเริ่มขั้นตอนการขอรับรหัสสุขภาพเพื่อเดินทางไปยังประเทศจีนได้ตามขั้นตอนด้านล่างนี้

2. ตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งในสถานพยาบาล 2 แห่ง และต้องมีระยะห่างของการเก็บตัวอย่างอย่างน้อย 24 ชั่วโมง โดยที่การเก็บตัวอย่างครั้งที่สองคือ 14 วันก่อนการเดินทาง)

3. หากผลตรวจทั้ง 2 ครั้งมีผลเป็นลบ ให้สำรวจสุขภาพตนเอง 14 วันก่อนการเดินทาง และกรอกตารางสำรวจสุขภาพตนเอง

4. สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว ตรวจ RT-PCR จำนวน 2 ครั้งภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจำนวน 2 แห่ง (ดูเอกสารแนบ2) โดยหนึ่งในนั้นจะต้องเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน การเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 48 ชั่วโมงจะเป็นเวลาใดก็ได้ระหว่างวันที่ 6 ถึงวันที่ 8 เมษายน และการเก็บตัวอย่างตรวจภายใน 24 ชั่วโมง จะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน

สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนที่ไม่ใช่ชนิดเชื้อตายครบถ้วนแล้ว ตรวจ RT-PCR พร้อมตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ต่อ N โปรตีนในซีรัม ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน และการเก็บตัวอย่างตรวจจะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน(ปัจจุบันในเขต 12 จังหวัดภาคเหนือ มีเพียงโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่เท่านั้นที่สามารถตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ต่อ N โปรตีนในซีรัมได้)

สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดเดียวกันไม่ครบถ้วน ตรวจ RT-PCR พร้อมตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เช่น หากเครื่องบินออกเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 เมษายน และการเก็บตัวอย่างตรวจจะต้องทำหลังเวลา 15.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน 

5. ตรวจ ATK ภายใน 12 ชั่วโมงก่อนเดินทาง โดยจะต้องตรวจที่สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย (ดูเอกสารแนบ2) และไม่ต้องอัพโหลดผลตรวจ ATK นี้เข้าระบบ แต่ต้องนำผลตรวจฉบับจริงไปที่สนามบิน ซึ่งทางสายการบินจะตรวจสอบที่จุดเช็คอิน หากเครื่องบินออกตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK ควรทำภายใน 12 ชั่วโมงวันเดียวกัน หากเครื่องบินออกก่อนเวลา 12.00 น. การเก็บตัวอย่างตรวจ ATK สามารถทำได้หลังเวลา 12.00 น. ของวันก่อนหน้า

6. เด็กอายุไม่เกิน 14 ปีและสตรีมีครรภ์ได้รับยกเว้นไม่ต้องทำการตรวจ CT สแกน หรือ เอ็กซเรย์ปอด

หมายเหตุ ผู้ที่เคยมีประวัติการติดเชื้อ หรือมีผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก แต่ไม่แจ้งประวัติการติดเชื้อตามจริง เมื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ หากพบการปกปิด จะทำให้ผู้นั้นถูกระงับสิทธิ์การยื่นขอรหัสสุขภาพในอนาคต

1. หน้าแรกของหนังสือเดินทาง

2. รหัสสุขภาพที่ออกให้โดยสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศต้นทาง

3. ตั๋วเครื่องบินหรือกำหนดการเดินทางไปยังประเทศจีน

4. ใบรับรองการฉีดวัคซีน

5. ใบรับรองแพทย์หรือผลการวินิจฉัยด้วยภาพ ( CT สแกนหรือภาพถ่ายเอ็กซเรย์ของปอด)ที่ออกให้โดยโรงพยาบาลในประเทศไทยที่ระบุว่าไม่พบความผิดปกติของปอดหรือได้รับการรักษาโรคโควิดจนหายดีแล้ว

6. ตารางสำรวจสุขภาพตนเอง

7. ผลตรวจRT-PCR จำนวน4ครั้ง

นำผลตรวจ ATK ฉบับจริงติดตัวไปที่สนามบินด้วย โดยจะมีการตรวจสอบจากสายการบินที่จุดเช็คอิน

6) บุคลากรของบริษัทหรือหน่วยงานจีนในประเทศไทย  (รวมถึงกิจการส่วนกลางกิจการของรัฐ และบริษัทเอกชน)

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

บุคลากรของบริษัทหรือหน่วยงานจีนในประเทศไทย  (รวมถึงกิจการส่วนกลางกิจการของรัฐและบริษัทเอกชน)

เพื่อการกักตัวอย่างมีประสิทธิภาพของบุคลากรของบริษัทหรือหน่วยงานจีนในประเทศไทย  (รวมถึงกิจการส่วนกลางกิจการของรัฐและบริษัทเอกชน)  บุคลากรเหล่านั้นจะต้องกักตัวและสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 21วันก่อนเดินทาง สำหรับผู้ที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อมาทำงานเป็นการชั่วคราว การเดินทางกลับประเทศจีนนั้น ก็ต้องกักตัวและสังเกตตัวเอง 7 วันก่อนการเดินทางและห้ามสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกเช่นกันโดยบริษัทหรือกิจการที่เกี่ยวข้องจะต้องออกหนังสือรับรองการกักตัว พร้อมประทับตราของบริษัท และอัพโหลดเมื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ หากพบว่าบริษัทหรือหน่วยงานจีนไม่สามารถกักตัวบุคลากรของตนได้ตามเงื่อนไข บุคลากรของหน่วยงานหรือบริษัทดังกล่าวจะถูกระงับสิทธิ์การยื่นขอรหัสสุขภาพ


7) ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอรหัสสุขภาพ

ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ

ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อหรือผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการโดยไม่มีการป้องกัน ควรแจ้งรายละเอียดต่อสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ตามความเป็นจริง ซึ่งจะต้องกักตัวและสังเกตอาการตนเองอย่างน้อย 14 วันนับจากวันที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย  จึงจะสามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ การยื่นขอรหัสสุขภาพจะอ้างอิงสถานะการฉีดวัคซีนของแต่ละบุคคล

ผู้ที่ผลตรวจ ATK เป็นบวก แต่สามารถยืนยันผลตรวจ RT-PCR ที่มีเวลาการตรวจหลังจากเวลาในผลตรวจ ATK ได้ จะถือเป็นผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อ จะต้องกักตัวและสังเกตอาการตนเองเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน จึงจะสามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ และตรวจร่างกายตามสถานะการฉีดวัคซีนแต่ละบุคคล และดำเนินตามขั้นตอนต่างๆ 7 วันก่อนเดินทาง


8) ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนโดยได้รับยกเว้นวีซ่า รวมถึงชาวต่างชาติที่ได้รับบัตรผู้อยู่อาศัย (Resident Permit) ของประเทศจีน ตามข้อตกลงทวิภาคีหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ประเภท

ข้อกำหนดในการตรวจ

เอกสารที่ใช้ยื่นขอ

รหัสสุขภาพ

ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจีนโดยได้รับยกเว้นวีซ่า รวมถึงบุคคลต่างชาติที่ได้รับบัตรผู้อยู่อาศัย (Resident Permit) ของประเทศจีน ตามข้อตกลงทวิภาคีหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

   ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศจีน โดยได้รับการยกเว้นวีซ่า รวมถึงชาวต่างชาติที่ได้รับบัตรผู้อยู่อาศัย (Resident Permit) ของประเทศจีนทั้ง3 ประเภทที่ออกให้โดยหน่วยงานด้านความปลอดภัยสาธารณะของประเทศจีน และยังต้องชี้แจงเหตุผลและจุดประสงค์ในการเดินทางมายังประเทศไทยและการเดินทางไปยังประเทศจีนที่ไม่มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนจะไม่ได้รับการพิจารณา


3. ข้อกำหนดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการตรวจ และ ผลตรวจ

1. ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพจะต้องเดินทางไปตรว ณ โรงพยาบาลได้รับการรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยพร้อมแสดงเอกสารประจำตัวเมื่อเข้ารับการตรวจ กรุณาอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อจากผู้อื่นที่พาไปตรวจ ณ สถานพยาบาลที่ไม่ได้รับการรับรองจากจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย

กรุณาอัพโหลดผลตรวจตามความเป็นจริง และกรุณาอย่าแก้ไข ปลอมแปลง ผลตรวจ เวลา และข้อมูลอื่นๆ โดยพลการ ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพจะต้องรับผิดชอบเอกสารทั้งหมดที่อัพโหลดรวมถึงข้อมูลส่วนตัวแต่เพียงผู้เดียว กรุณาอย่าหลงเชื่อคำสัญญาของผู้อื่นว่าสามารถยื่นพร้อมอนุมัติได้ทันที หรืออนุญาตให้อัพโหลดเอกสารปลอม หรือ ปกปิดข้อมูลส่วนตัว หากเป็นเช่นนั้น การยื่นขอรหัสสุขภาพของบุคคลผู้นั้นส่งผลกระทบให้ไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศจีนได้

2. การตรวจ RT-PCR จะต้องเก็บตัวอย่างที่เยื่อบุด้านหลังโพรงจมูก และระบุชัดเจนว่า “RT-PCR” ส่วนการตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัมจะต้องเจาะเลือดจากหลอดเลือดดำเท่านั้น ห้ามเจาะจากปลายนิ้ว หรือใช้ชุดตรวจชนิดตรวจด่วน ในผลตรวจตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัมจะต้องระบุว่าซีรัม  “serum”, หลอดเลือดดำ “venousอย่างชัดเจน

3. เนื่องจาก บริษัท ศูนย์แลบธนบุรี จำกัดมีพื้นที่จำกัด และจำกัดการให้บริการแก่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยในการตรวจร่างกายผู้ที่ถูกผลักดันส่งกลับเท่านั้น จึงไม่สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้บริการที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศจีน

4. ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพสามารถเข้ารับการตรวจต่างๆ ได้ในทุกภูมิภาคในประเทศไทย และยื่นขอรหัสสุขภาพต่อสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลจีนที่ดูแลพื้นที่นั้นๆ  การตรวจต่าง ๆ จะต้องดำเนินการ ณ สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทย การตรวจข้ามเขตกงสุลอาจส่งผลให้ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพได้รับรหัสสุขภาพล่าช้าได้

4. การยื่นขอรหัสสุขภาพ

1) วิธีการยื่นขอรหัสสุขภาพ

1.1 ผู้มีสัญชาติจีน (หมายรวมถึง ผู้ถือหนังสือเดินทางจีน เอกสารเดินทางจีน ผู้ถือบัตรผ่านเข้าออกแผ่นดินใหญ่สำหรับชาวฮ่องกงและมาเก๊า ผู้ถือบัตรผ่านเข้าออกแผ่นดินใหญ่สำหรับชาวไต้หวัน)  สามารถค้นหามินิโปรแกรม “รหัสสุขภาพเพื่อป้องกันโรคระบาด” ในวีแชท หรือสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่างนี้เพื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ

1.2 ผู้ที่ไม่ใช่สัญชาติจีน สามารถยื่นขอรหัสสุขภาพได้ที่เว็บไซต์ยื่นขอรหัสสุขภาพสำหรับชาวต่างชาติ https://hrhk.cs.mfa.gov.cn/H5/. 

2) ข้อควรระวัง

1. ไม่ต้องอัพโหลดผลตรวจ ATK 12 ชั่วโมงก่อนเดินทางเมื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ

2. หลังจากที่ได้รับผลตรวจ RT-PCR และผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัมตามเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว กรุณาอัพโหลดผลตรวจทั้งหมดในครั้งเดียวเพื่อยื่นขอรหัสสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องแยกอัพโหลดในวันที่ 7 และ 14 วันก่อนเดินทาง

5. การตรวจสอบและการอนุมัติ

1. เพื่อรับประกันคุณภาพของผลตรวจ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จีนในประเทศไทยจะติดต่อสถานพยาบาลเพื่อตรวจสอบและยืนยันผลตรวจ ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพกรุณาอัพโหลดผลตรวจทันทีที่ได้รับผลตรวจ การส่งเอกสารภายใน 3 ชั่วโมงก่อนเดินทางอาจไม่ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติได้ทันเวลา ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ยื่นขอรหัสสุขภาพได้รับรหัสสุขภาพล่าช้า และอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางได้

2. สายการบินจะตรวจสอบผลตรวจ RT-PCR, ผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัม และผลตรวจATK  และตราประทับเข้าออในหนังสือเดินทางที่จุดเช็คอิน

2.1 ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังประเทศจีนจะต้องเปิดมินิโปรแกรม เข้าสู่ระบบ และแสดงรหัสสุขภาพ ห้ามใช้การจับภาพหน้าจอ ภาพที่พิมพ์ออกมา และภาพในรูปแบบอื่นๆ 

2.2 ผู้โดยสารที่เดินทางไปยังประเทศจีนจะต้องแสดงผลตรวจ RT-PCR, ผลตรวจแอนติบอดี้ IgM และ IgG ในซีรัมในรูปแบบกระดาษ และต้องมีผลเป็นลบเท่านั้นจึงจะสามารถเดินทางได้

Suggest to a friend:   
Print