เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีนได้จัดงานแถลงข่าวและตอบคำถามนักข่าวจีนและต่างประเทศ
นายหลี่ เฉียงชี้ว่า การทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ก็คือการสืบสานเจตนารมณ์และการมอบหมายงานจากคณะกรรมการกลางพรรคฯ คือการเปลี่ยนพิมพ์เขียวใหญ่ที่ร่างโดย สมัชชาฯ 20 ของพรรคเป็นแบบก่อสร้าง ทำงานร่วมกับประชาชนทุกหมู่เหล่าเพื่อบรรลุแผนอันยิ่งใหญ่ทีละขั้น ให้กลายเป็นความจริงที่สวยงาม
ประการแรกคือการสร้างปรัชญาการพัฒนาที่มั่นคงอันมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง วัตถุประสงค์ของการทำงานทั้งหมดของพรรคและรัฐบาลคือการทำประโยชน์ให้กับประชาชน เราต้องนึกถึงคำว่า “ประชาชน” ที่อยู่ในคำว่า “รัฐบาลประชาชน” อยู่เสมอ และทำทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพของประชาชนให้ดีที่สุด การทำงานของรัฐบาลต้องวางแผนและผลักดันสิ่งต่างๆให้สอดคล้องกับความรู้สึกที่แท้จริงของประชาชนให้มากที่สุด เพื่อบรรลุความคาดหวังของประชาชนและการทำงานของรัฐบาลอย่างแท้จริง
ประการที่สองคือรวมพลังผลักดันการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีนประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่างมั่นคง แต่การพัฒนายังไม่สมดุลและไม่เพียงพอ เมื่อนำตัวบ่งชี้ใดๆก็ตามไปเฉลี่ยกับฐานประชากรมากกว่า 1.4 พันล้านคน จะมีระดับต่อหัวค่อนข้างจำกัด ปัจจุบัน การพัฒนาประเทศของเราเน้นแก้ปัญหา “มีหรือไม่มี” มากกว่า แต่ในขั้นตอนต่อไป เราจะเน้นแก้ปัญหาที่ “ดีหรือไม่ดี” มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความสามารถด้านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสร้างระบบอุตสาหกรรมที่ทันสมัย และส่งเสริมการปรับเปลี่ยนสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยสรุปแล้ว ต้องดำเนินการตามแนวคิดการพัฒนาแบบใหม่อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และครอบคลุม เร่งสร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ และมุ่งเน้นส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพ
ประการที่สามคือยืนหยัดปฏิรูปและเปิดกว้างอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การปฏิรูปและการเปิดกว้างเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญที่กำหนดชะตากรรมของประเทศจีนในปัจจุบัน ในกระบวนการของประวัติศาสตร์แห่งการส่งเสริมความทันสมัยแบบจีนและการต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษที่สอง เรายังคงต้องอาศัยการปฏิรูปและการเปิดกว้าง ต้องยึดมั่นในทิศทางการปฏิรูปเศรษฐกิจแบบตลาดภายใต้สังคมนิยม ยึดมั่นในการเปิดกว้างระดับสูง เพิ่มแรงจูงใจและความมีชีวิตชีวาสำหรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในกระบวนการปฏิรูปและเปิดกว้างอย่างลึกซึ้ง
นายหลี่ เฉียงชี้ว่า ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 45 ปีของการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน การปฏิรูปและเปิดประเทศได้พัฒนาจีนและส่งผลกระทบต่อโลก องค์กรธุรกิจต่างชาติส่วนใหญ่ต่างมองเห็นโอกาสการพัฒนาในจีน ปีที่แล้ว จีนใช้เงินทุนต่างชาติมากกว่า 1.89 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นเกือบ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากสามปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเป็นทำเลทองสำหรับการลงทุนทั่วโลก
นายหลี่ เฉียงกล่าวว่า การเปิดกว้างเป็นนโยบายระดับชาติขั้นพื้นฐานของประเทศจีน ไม่ว่าสถานการณ์ภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ประเทศจีนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง งานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีนที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตลาดจีนที่เปิดกว้างเป็นโอกาสดีสำหรับการพัฒนาธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก
นายหลี่ เฉียงกล่าวว่า ในปีนี้ จีนจะบูรณาการกฎเกณฑ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศที่มีมาตรฐานสูง และจะขยายการเปิดกว้างมากขึ้น ประตูที่เปิดกว้างของประเทศจีนจะเปิดกว้างขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งแวดล้อมจะดีขึ้นเรื่อย ๆ และบริการจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศจีนที่เปิดกว้างยินดีต้อนรับทุกท่านเข้ามาลงทุนและสร้างธุรกิจที่จีน
สำหรับคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ หลี่ เฉียงกล่าวว่าตามสถิติของฝ่ายจีน ปริมาณการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในปีที่แล้วสูงถึงเกือบ 7.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เศรษฐกิจของจีนและสหรัฐอเมริกาต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน และต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์จากการพัฒนาของอีกฝ่าย จีนและสหรัฐฯ สามารถร่วมมือกันได้ และควรที่จะร่วมมือกัน ความร่วมมือระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีอนาคตอย่างมาก การกีดกันและปราบปรามจะไม่เป็นประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่าย
นายหลี่ เฉียงชี้ว่า ในช่วงสามปีของการเกิดโรคระบาด ภายใต้การนำที่เข้มแข็งของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชาวจีนได้ต่อสู้กับโรคระบาดอย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จนได้รับชัยชนะครั้งสำคัญและเด็ดขาด กว่าสามปีที่ผ่านมา เรายึดมั่นในหลักของประชาชนเป็นสำคัญและการรักษาชีวิตเป็นสำคัญ เรายืนหยัดป้องกันและควบคุมโรคตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างแม่นยำ ตลอดจนใช้มาตรการป้องกันและควบคุมที่เหมาะสมและปรับเปลี่ยนไปตามเวลาและสถานการณ์ ในช่วงที่ไวรัสมีความรุนแรงสูง เราใช้มาตรการที่เข้มข้นเด็ดขาด ทำให้สามารถปกป้องชีวิตและสุขภาพของผู้คนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการซื้อเวลาอันมีค่าสำหรับการพัฒนาวัคซีน การผลิตยา และการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงอีกด้วย
เมื่อไวรัสอ่อนแอลง กอปรกับความสามารถในการป้องกันและควบคุมโรคที่เพิ่มขึ้น เราได้ทำการเพิ่มประสิทธิภาพและปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันและควบคุมหลายชุดอย่างทันท่วงทีโดยใช้มาตรการที่เหมาะสมกับระดับของไวรัส หลี่ เฉียงกล่าวว่า ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่ที่มีประชากรจำนวนมากและการพัฒนาที่ไม่สมดุลประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างราบรื่นภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน สามารถฟื้นฟูระเบียบทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเรื่องน่าทึ่งมาก การปฏิบัติจริงได้พิสูจน์แล้วว่ากลยุทธ์และมาตรการต่าง ๆ ในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในประเทศจีนนั้นมาถูกทาง และได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับไวรัสเป็นกระบวนการทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ปัจจุบัน ความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ยังคงมีอยู่ ในเรื่องนี้ หลี่ เฉียงกล่าวว่า “เราจะทำการวิจัยและตัดสินใจเรื่องนี้อย่างทันท่วงที เตรียมการด้านการคาดการณ์และเตือนภัยล่วงหน้า ตลอดจนกำหนดและปรับปรุงแผนรับมือการแพร่ระบาดภายใต้สถานการณ์ต่างๆ เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบบริการสาธารณสุข เร่งศึกษาวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยา เพิ่มความร่วมมือและประสานงานกับประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกันปกป้องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของมวลมนุษย์”