ถาม: เหตุใดจีนจึงตัดสินใจปรับนโยบายป้องกันและควบคุมโควิดในเวลานี้

ตอบ: ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผ่านมา อัตราความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิตที่เกิดจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่หลายในโลกลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้เชี่ยวชาญโดยทั่วไปมีความคิดเห็นว่าการกลายพันธุ์ของโควิดนั้นทำให้เกิดโรคมีทิศทางที่ลดน้อยลง มีแนวโน้มกลายเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจมากขึ้น และระยะฟักตัวสั้นลง หลายๆ ประเทศได้ปรับนโยบายการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง จีนใช้นโยบายเชิงรุกในการปรับมาตรการต่อต้านการแพร่ระบาดตามจังหวะเวลาและสถานการณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง  ได้ประกาศใช้มาตรการ “มาตรการ 20 ข้อ” และ “มาตรการ 10 ข้อใหม่” และตัดสินใจปรับมาตรการรับมือโควิด-19 จาก “โรคดติดเชื้อประเภทบีระดับ เอ” เป็น “โรคติดเชื้อประเภทบีระดับ บี” โดยเปลี่ยนจุดเน้นของงานจากการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อไปสู่การป้องกันการเกิดโรครุนแรงและการดูแลสุขภาพแทนซึ่งเป็นสิ่งที่สอดคล้องหลักการทางวิทยาศาสตร์ ทันท่วงที และมีความจำเป็น โดยมีวัตถุประสงค์คือเพื่อสร้างหลักประกันคุ้มครองความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดผลกระทบเชิงลบของการแพร่ระบาดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

แน่นอนว่าทุกประเทศในโลกจะต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการปรับตัวเมื่อปรับนโยบายป้องกันและควบคุมโควิด และก็ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับการ “เปลี่ยนเกียร์” ของนโยบายป้องกันและควบคุมโควิดของจีน  จีนปรับนโยบายป้องกันและควบคุมโควิดโดยสมัครใจหลังจากการวิเคราะห์และตัดสินอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ มีปัจจัยเงื่อนไขและพื้นฐานที่ดีและสถานการณ์ปัจจุบันก็อยู่ภายในการคาดการณ์เช่นกัน ในช่วงสามปีที่ผ่านมา จีนได้สะสมประสบการณ์มากมายในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด  มีการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันและควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ เรามีความสามารถและมั่นใจในการเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิดในที่สุด

ถาม: หลังจากที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด บางประเทศและเขตพื้นที่ก็เริ่มออกมาตรการต่างๆ เช่น การตรวจหาเชื้อไวรัสโควิดในผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีน ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้

ตอบ: การปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดของจีนในปัจจุบันสะท้อนถึงหลักการความแม่นยำทางวิทยาศาสตร์ ประเทศบางประเทศออกมาตรการจำกัดหรือมาตรการกักกันหรือตรวจหาเชื้อไวรัสเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งไม่สอดคล้องกับลักษณะของไวรัสเองและมาตรการปฏิบัติทั่วไประหว่างประเทศในปัจจุบัน จะไม่ช่วยให้เกิดความร่วมมือที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการต่อสู้กับโรคระบาดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ไม่เอื้ออำนวยต่อการไปมาหาสู่กันของผู้คนและจะไม่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก จีนมีความเชื่ออยู่เสมอว่ามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของประเทศต่างๆ ควรเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และมีความเหมาะสม ควรปฏิบัติต่อพลเมืองของทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน และไม่ควรส่งผลกระทบต่อการเดินทางของบุคลากรและการแลกเปลี่ยน ความร่วมมือตามปกติ

ถาม: เพื่อตอบสนองต่อการปรับนโยบายการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของจีน เราสังเกตเห็นว่าผู้นำไทยบางคนกล่าวว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและเร่งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีหน้า ปัจจุบัน หน่วยงานราชการและองค์กรการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องของไทยกำลังเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมายังประเทศไทยอย่างแข็งขัน ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร

ตอบ: เรารับทราบรายงานที่เกี่ยวข้องแล้วและขอขอบคุณฝ่ายไทยสำหรับการแสดงออกถึงท่าทีเช่นนี้ หลังจากจีนออกมาตรการชั่วคราวว่าด้วยการเดินทางระหว่างประเทศ หลายประเทศรวมถึงไทยก็ตอบรับในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนอย่างกระตือรือร้น  จีนจะดำเนินการให้พลเมืองจีนเดินทางไปยังประเทศที่มีความพร้อมโดยพิจารณาจากความเต็มใจของพลเมืองจีน จีนจะประสานงานกับประเทศที่เกี่ยวข้องรวมถึงประเทศไทยอย่างใกล้ชิดเพื่อให้บริการและสร้างหลักประกันสำหรับชาวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศ และเริ่มงานที่เกี่ยวข้องในเวลาที่เหมาะสม เชื่อว่ามาตรการใหม่ของจีนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างประเทศของบุคลากร ก่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้นสำหรับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของจีนกับประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทย และมีส่วนช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ถาม: สื่อตะวันตกบางสำนักเชื่อว่าการปรับนโยบายป้องกันและควบคุมโควิดของจีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของชีวิตประชาชน และยังเชื่อว่าจีนล้มเหลวในการต่อสู้กับโรคระบาด ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร

ตอบ: คำกล่าวเหล่านี้เต็มไปด้วยการใส่ร้ายป้ายสีอย่างมีอคติ และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยมีแรงจูงใจทางการเมืองแอบแฝงอยู่ ซึ่งไม่มีตรรกะทางข้อเท็จจริงและขัดแย้งกับความจริง ใน 3 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด  รัฐบาลจีนยืนหยัดในหลักการยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางและชีวิตของประชาชนเหนือสิ่งอื่นใด มาตรการมีความแม่นยำตามหลักวิทยาศาสตร์ ปรับเปลี่ยนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดตามกาลเวลาและสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุด ในช่วงเวลาที่ไวรัสรุนแรงที่สุด พรรคและรัฐบาลของจีนได้ระดมทรัพยากรทั้งหมดและสุดความสามารถ เพื่อปกป้องชีวิตและสุขภาพของชาวจีนทุกคนให้ปลอดภัย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จีนสามารถต้านทานผลกระทบของการแพร่ระบาดหลายระลอกและประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของสายพันธุ์ก่อโรคที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น สายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์กลายพันธุ์เดลต้า อัตราการติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตของจีนต่ำที่สุดในโลก  ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของจีนในการต่อสู้กับโรคระบาดได้รับการชื่นชมและเป็นที่ยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์จากประชาคมโลก รวมถึงองค์การอนามัยโลก

สื่อตะวันตกบางสื่อจงใจสร้างกระแสหรือแม้แต่บิดเบือนการปรับนโยบายป้องกันและควบคุมโควิดของจีน แต่เลี่ยงที่จะพูดถึงความวุ่นวายในการป้องกันโรคระบาดที่ประเทศตนประสบและผลกระทบอย่างร้ายแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสองมาตรฐานอย่างสิ้นเชิง